รองแม่ทัพภาคที่ 3 รับ11 คนไทยกลับบ้านพร้อมมอบขวัญกำลังใจแก่กำลังพล
กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรในพื้นที่,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,ฝ่ายปกครอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมมอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา-19 บุคคลกลุ่มเสี่ยงและบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมถึง รณรงค์ชาวบ้านในพื้นที่ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.เชียงราย ในห้วงที่ผ่านมา
โดย พลตรีถนัด โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบของขวัญปีใหม่ให้กับกำลังพล ของ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ณ กองร้อยทหารม้าที่ 3 จากนั้นได้เดินทางไปพบกับ ผู้บังคับการกองบังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสาย ด่านพรมแดนแม่สาย 2 เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันในฐานะมิตรประเทศ และร่วมกันรับ 11 คนไทยที่เดินทางไปทำงานเมียนมากลับประเทศไทยตามช่องทางถูกกฎหมายและเข้าสู่ขบวนการการคัดกรองและกักตัว 14 วัน ก่อนที่ท่านรองแม่ทัพและคณะจะเดินทาง บ้านเหมืองแดงใต้ ตำบลแม่สายอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเดินทางตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ณ ศูนย์บริการประชาชน ลานจอดรถบริษัทนิสสันเชียงราย (ข้างปั๊ม ปตท.) สี่แยกแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
พลตรีถนัด รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เสียสละ ในการปฏิบัติงานช่วงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวเน้นย้ำว่า พี่น้องประชาชนต่างเดินทางกลับหลังจากไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาล ปีใหม่ จึงเป็นช่วงที่มีการใช้รถใช้ถนนมาก ในการเดินทาง มีปริมาณและความหนาแน่นมาก จึงได้เน้นย้ำให้ ทุกภาคส่วนได้บูรณาการร่วมกัน เพื่อความรวมมือในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาล พร้อมบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับ การใช้ความเร็วกว่ากฎหมายกำหนด ขับรถย้อนศร ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แซงในที่คับขัน ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่ทำผิดกฎหมายจราจร ในฐานความผิด อื่น ๆ ที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด- 19 ควบคู่ไปด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่เดินทางตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 63 – 6 มกราคม 64